ข่าวสารเทคโนโลยี
1.ช่วยโลก! เปลี่ยนขยะพิษจากคอมพ์ เป็นน้ำมันเติมรถ
1.ช่วยโลก! เปลี่ยนขยะพิษจากคอมพ์ เป็นน้ำมันเติมรถ
ทั้งนี้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ อันตรายกว่าขยะตามบ้านเรือนทั่วๆ ไปมาก เนื่องจากขยะไฮเทคเหล่านี้ประกอบขึ้นจากวัสดุมีพิษมา กมาย อาทิ สารหนู ปรอท ตะกั่ว และสารหน่วงไฟ เป็นต้น
ทั้งนี้ตามรายงานของไลฟ์ไซน์ (Live Science) ระบุว่า เมื่อปี 2548 เฉพาะที่สหรัฐอเมริกาประเทศเดียว ก็ก่อให้เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์มากถึง 2.63 ล้านตัน แต่มีข่าวดีว่านักวิทยาศาสตร์ในโรมาเนียและตุรกี กำลังหาวิธีนำสารพิษออกจากขยะอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ เพื่อให้นำไปรีไซเคิลได้อย่างปลอดภัย
คอร์เนเลีย วาซิเล (Cornelia Vasile) นักวิจัยจากสถาบันแห่งโรมาเนีย (Romanian Academy) และคณะได้เลือกแผงวงจรจากคอมพิวเตอร์ที่ถูกทิ้ง จากนั้นใช้การผสมตัวเร่งปฏิกิริยาพิเศษ อุณหภูมิสูงและการแยกทางเคมีเพื่อทำลายสารเติมแต่งเพ ื่อหน่วงไฟที่อยู่ในพลาสติกแผงวงจรกระบวนการดังกล่าวสามารถแยกสารประกอบที่เป็นพิษออกมา ได้เกือบทั้งหมดและได้ผลเป็นน้ำมันที่ปลอดภัยพอที่จะ ใช้เป็นเชื้อเพลิงหรือวัตถุดิบสำหรับผลิตเครื่องอุปโ ภคในชีวิตประจำวันได้
โดยรายละเอียดของงานวิจัยจะรายงานในวารสารพลังงานและ เชื้อเพลิง "เอเนอร์จี แอนด์ ฟิเอล" (Energy & Fuels) ฉบับที่ 21 พ.ค.นี้"ถือเป็นงานที่มีประโยชน์" ความเห็นต่องานวิจัยของวิลเลียม ฮอลล์ (William Hall) วิศวกรเคมีจากมหาวิทยาลัยโคเวนทรี (Coventry University) อังกฤษ
ซึ่งไม่มีส่วนร่วมกับงานวิจัยของวาซิเล และระบุว่าการรีไซเคิลแผงวงจรจากขยะอิเล็กทรอนิกส์จะ มีความสำคัญเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะโลหะบางอย่างที่อยู่ในแผงวงจรเหล่านั้นจะเริ่มข าดแคลนมากขึ้นฮอลล์เสริมอีกว่าปัจจุบันการแยกชิ้ส่วนแผงวงจรสามารถ ทำได้ในโรงหลอม ซึ่งนวัตกรรมที่ทีมวาซิเลพัฒนาขึ้นมานั้นต้องพิสูจน์ ให้เห็นว่ามีความได้เปรียบโรงหลอมและมีความคุ้มค่าเช ิงการค้า โดยประโยชน์ของเทคนิคใหม่นี้คือการนำโลหะที่อยู่ในแผ งวงจรกลับมาคืน อีกทั้งยังสามารถนำสารเคมีอินทรีย์ที่มีค่ากลับมาใช้ ใหม่ได้
-------------------------------------------------------------------------------------------------
2.“กสท”ลงทุน3Gความถี่850MHz ปรับแผนให้ทรูมูฟเช่าเครือข่าย
บอร์ด กสท นัด 31 พ.ค.ถกอนาคตบริการ 3G ของดีแทค ทรูมูฟ คาดหลังเกลี่ยความถี่ 850 MHz ใหม่จะทำให้ได้ความถี่ว่าง 5 MHz กสทจะลงทุนเองเพื่อเป็นเน็ตเวิร์ก โพรวายเดอร์แล้วให้ทรูมูฟเช่าในฐานะเซอร์วิสโพรวายเด อร์ ‘สถิตย์’ชี้เกรงกระทบสัญญาสัมปทาน หากเดินแนวทางเดียวกับดีแทค พร้อมเปิดช่องทรูมูฟอาจได้เป็นมาร์เกตติ้งอาร์ม ซีดีเอ็มเอภูธรนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานบอร์ดบริษัท กสท โทรคมนาคม กล่าวว่า ในการประชุมบอร์ด กสท วันที่ 31 พ.ค.ที่จะถึงนี้ บอร์ดจะพิจารณาเรื่องสำคัญ 3 เรื่องคือ
1. การพัฒนาบริการ 3G ด้วยเทคโนโลยี HSPA ของดีแทคและทรูมูฟ 2. แผนพลิกฟื้นธุรกิจหรือturn around planและ3. งบประมาณประจำปี 2552 ของกสท จำนวน 3 หมื่นล้านบาทที่ฝ่ายบริหารจะเสนอเข้ามาในส่วนของดีแทคถือว่ามีความคืบหน้ามาก หลังมีการเจรจาระหว่างกสทกับดีแทค
ได้ข้อสรุป 3 เรื่องร่วมกันคือ 1. ดีแทคและกสทจะจัดระเบียบหรือเกลี่ยความถี่ในช่วง 850 MHz เดิมซึ่งจะทำให้ได้ช่วงกว้างความถี่หรือ bandwidth ว่างจำนวน 5MHzเพื่อให้กสทสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 2. ดีแทคตกลงใช้เกตเวย์โทรศัพท์ระหว่างประเทศของกสทเท่า นั้นในบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศและ3. ดีแทคยินดีโฆษณาประชาสัมพันธ์โดยเพิ่มเติมข้อความหรื อโลโก้กสทในฐานะพันธมิตรในการให้บริการ3Gส่วนกรณีทรูมูฟมีความยากกว่ามากเพราะสัมปทานของทรูมู ฟนั้นเป็นการให้บริการโทรศัพท์มือถือในย่านความถี่ 1800 MHz และเกิดขึ้นหลังพ.ร.บ.ร่วมการงานระหว่างรัฐกับเอกชน พ.ศ.2535 จำเป็นต้องมีการตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 13 และต้องรายงานเข้าที่ประชุมครม.
ซึ่งเป็นการตีความของคณะกรรมการกฤษฎีในสมัยนายสิทธิช ัย โภไคยอุดม เป็นรมว.ไอซีทีดังนั้น หากกสทยกความถี่ 850 MHz ที่ว่างภายหลังการจัดระเบียบคลื่นความถี่ระหว่างดีแท คกับกสทให้ทรูมูฟ อาจกระทบกับสัญญาสัมปทานเดิมเพราะมองได้ว่าเป็นสัมปท านใหม่ ทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุดทางหนึ่งมีความเป็นไปได้ที่กส ทจะลงทุน HSPA หรือ 3G ในย่านความถี่ 850 MHz เองในฐานะเน็ตเวิร์ก โพรวายเดอร์แล้วให้ทรูมูฟมาเช่าในฐานะเซอร์วิสโพรวาย เดอร์ ซึ่งแนวทางนี้จะทำให้ดีแทคและทรูมูฟสามารถให้บริการ
HSPA ได้เช่นเดียวกับเอไอเอส‘ในความเห็นส่วนตัวผมอยากให้กสทลงทุนเน็ตเวิร์ก 3G ด้วย HSPA เองแล้วให้ทรูมูฟมาเช่า แต่ต้องมีการเจรจารายละเอียดต่อไป ซึ่งยังเป็นไปได้ว่าทรูมูฟอาจจะเข้ามาช่วยทำตลาดซีดี เอ็มเอในภูมิภาค 51 จังหวัดของกสท ทั้งหมดอยู่ที่บอร์ด กสท วันที่ 31 พ.ค.’อย่างไรก็ตาม หากกสทลงทุนเอง ก็ต้องผ่านขั้นตอนตามลำดับต้องขอความเห็นชอบจากกระทร วงไอซีที มีการนำเสนอสภาพัฒน์ และเปิดประมูลอี-ออกชันอย่างโปร่งใส ซึ่งเชื่อว่าคงใช้เวลาไม่นานนักนายมั่น พัธโนทัย รมว.ไอซีที
กล่าวว่า ได้ให้นโยบายแก่บอร์ดกสทว่าจะต้องพิจารณาเรื่อง 3G อย่างรอบคอบ และให้ความเป็นธรรมแก่เอกชนทั้งดีแทคและทรูมูฟ ซึ่งการที่เอไอเอสต้องชะลอการลงทุน HSPA ออกไปก่อน ก็เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม เพราะหากเอไอเอสกับดีแทคขยายการลงทุนไปมาก การที่เป็น 2 รายใหญ่ในตลาดก็เท่ากับปิดโอกาสผู้ให้บริการที่เหลือส่วนการประชุมซูเปอร์บอร์ดเพื่อตัดสินการซื้อขายหุ้น ระหว่างทีโอทีกับกสท ในกิจการร่วมค้าไทยโมบายในวันที่ 26 พ.ค.นี้ หากยังไม่สามารถได้ข้อสรุปในเรื่องราคาเพราะเท่าที่ท ราบเบื้องต้นทีโอทีต้องการซื้อในราคาประมาณ 1.8-1.9 พันล้านบาท ในขณะที่กสทยังยืนยันที่จะขายในราคา 2.4 พันล้านบาท
ก็ยังมีทางออกด้วยการจ้างทีมบริหารมืออาชีพเข้ามาบริ หารจัดการในขณะที่โครงสร้างการถือหุ้นต่างๆยังเป็นไปในรูปแบบเ ดิม ทีโอทีกับกสท จะทำหน้าที่ผู้ถือหุ้นและกำกับดูแลผ่านทางบอร์ดบริหา รไทยโมบาย ส่วนในด้านการปฏิบัติงานจะใช้มืออาชีพเข้ามา ซึ่งแนวทางนี้น่าจะได้ประโยชน์ทุกฝ่าย เหมือนทีโอทีกับกสทสร้างทางด่วนร่วมกัน แล้วตั้งด่านเก็บค่าผ่านทาง เมื่อเกิดรายได้ก็นำมาแบ่งผลประโยชน์กันตามสัดส่วนกา รถือหุ้น ไทยโมบายก็จะเป็นเน็ตเวิร์กโพรวายเดอร์ ในขณะที่เอกชนถ้าจะมาเช่าใช้เครือข่ายก็จะเป็นเซอร์ว ิส โพรวายเดอร์‘ตอนแรกประธานสถิตย์บอกถ้าคุยกันดีๆ อาจขายให้ ทีโอที บาทเดียวก็ได้ แต่ตอนหลังเปลี่ยนไปแล้วบอกต้อง 2.4 พันล้าน แต่ไม่เป็นไรถ้าตกลงกันไม่ได้สักที ยังมีทางออกที่ 3 คือลักษณะเหมือนเป็น
โฮลดิ้งร่วมกันแล้วจ้างทีมบริหาร มืออาชีพเข้ามาก็ได้’ทั้งนี้ โครงการ 3G ของไทยโมบายจะทำในลักษณะ
เพื่อให้บริการ อย่างไรก็ตามรมว.ไอซีทีกล่าวว่าจะต้องนำเรื่องไปหารื อกระทรวงการคลังในส่วนของสำนักบริหารหนี้สาธารณะ แต่เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาหรือเกิดการติดขัดอย่าง ไร เพราะกรณีการสร้างรถไฟฟ้าหลายแสนล้านบาทยังสามารถทำไ ด้ การลงทุนเพื่อสร้างเครือข่าย 3G ของไทยโมบาย จะคุ้มค่า และคืนทุนสร้างรายได้ และสร้างประโยชน์ให้เศรษฐกิจภาพรวมของประเทศในระยะเว ลาที่รวดเร็วกว่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น